ปัญหาใหญ่ เมื่อมือแห้ง แตก ลอกเป็นขุย

‘มือ’ เป็นอวัยวะสำคัญในการทำงานต่างๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะ แปรงฟัน อาบน้ำ ล้างหน้า ซักผ้า ล้างจาน เช็ดพื้น ถูพื้นและอีกสารพัดงานทั้งในบ้านและนอกบ้าน ฉะนั้น การดูแลมือจึงมีความสำคัญ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผิวหนังที่มือเกิดอาการแห้ง แตก ลอกเป็นขุย บางทีอาจจะมีอาการคัน แสบ เลือดไหลร่วมด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ยิ่งต้องรีบหาทางระงับอาการเหล่านั้นให้ได้เร็วไวสาเหตุที่ทำให้มือแห้ง แตก ลอกเป็นขุย มีหลายปัจจัย เช่น มักจะเกิดในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นสภาวะอากาศแห้งมีความชุ่มชื้นน้อย มักจะเกิดกับผู้ที่ชอบอาบน้ำหรือล้างมือในน้ำอุ่นเป็นเวลานานและบ่อยๆ มักจะเกิดจากการใช้มือสัมผัสความชื้นอยู่เป็นประจำเลยทำให้เกิดการอับและมือแห้ง มักจะเกิดจากการแพ้สารเคมี อาทิ ผงซักฟอก สบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น มักจะเกิดจากการขาดวิตามินอย่างรุนแรง การขาดวิตามินเอ เป็นสาเหตุทำให้ผิวแห้งร่วมกับตาบอดไก่หรือกลางคืนมองเห็นไม่ชัดและการขาดวิตามินบี3 (ไนอาซิน) ก็ทำให้ผิวหนังอักเสบร่วมกับมีอาการท้องเดิน สติเลอะเลือน เมื่อได้รับวิตามินที่ขาดเหล่านั้น อาการก็จะดีขึ้น มักจะเกิดกับคนบางคนที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง
การแก้ปัญหามือแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ในอันดับแรกเลย จะต้องรู้ถึงสาเหตุของการเกิดอาการก่อน จากนั้นให้หลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆ นั้น การทำแบบนี้จะใช้ในกรณีที่สาเหตุเกิดจากสภาวะอากาศ นิสัยส่วนตัว สารเคมีต่างๆ ส่วนสาเหตุที่เกิดจากการขาดวิตามินรุนแรงหรือเกิดจากฮอร์โมน ตรงนี้อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ
วิธีการช่วยแก้ปัญหามือแห้ง แตก ลอกเป็นขุย สามารถทำได้ตามนี้
– ใช้น้ำมันมะพร้าว โดยการทาน้ำมันมะพร้าวที่มือ ทาทั้งเช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน ขณะทาก็ให้นวดมือไป
ด้วย เพื่อให้น้ำมันมะพร้าวซึมลงสู่ผิว ทำแบบนี้เป็นประจำสม่ำเสมอ แล้วจะเห็นผลที่ดีเกินคาด มือจะกลับมาเนียนสวยแน่นอน
– ใช้ใบสะเดา เนื่องด้วยสะเดาเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์และยังสามารถช่วยให้ผิวหนังที่แห้งลอกกลับมาดีได้
ด้วย วิธีการทำคือ นำใบสะเดาจำนวน 15-20 ใบ ไปต้มในน้ำสะอาดประมาณ 5 ลิตร โดยใช้เวลาต้มนาน 5 นาที หลังจากยกลงจากเตาก็ทิ้งไว้จนน้ำต้มใบสะเดาเริ่มอุ่นๆ จากนั้นก็ให้จุ่มมือลงไปในน้ำต้มใบสะเดาและแช่ประมาณ 5 นาที ทำแบบนี้วันละครั้งอย่างต่อเนื่องจนมือหายลอก ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ถึงอาทิตย์ผิวหนังที่มือจะมีสภาพดีขึ้น
– ใช้ใบผักหวาน อาจจะมีหลายๆ คนรวมถึงข้าพเจ้าที่แปลกใจว่า ใบผักหวานสามารถช่วยเรื่องมือแห้งมือลอกได้
ด้วยหรือ แต่แล้วก็กระจ่างใจ เมื่อค้นหาข้อมูลและได้ทดลองทำ โดยการขยี้ใบผักหวานให้ละเอียด แล้วทาให้ทั่วฝ่ามือและทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน วันละหนึ่งครั้ง มือที่แห้งลอกจะกลับคืนสู่สภาพเดิม
– ใช้เบบี้ออยล์และน้ำอุ่น วิธีการก็คือ นำเบบี้ออยล์หยดในน้ำอุ่นประมาณ 2-3 หยด จากนั้นให้จุ่มมือลงไปและแช่
ทิ้งไว้ 3 นาที พร้อมกันนั้นให้ใช้แปรงนุ่มๆ ขัดมือที่ลอกเบาๆ เพื่อให้ผิวหนังที่ตายหลุดลอกออกไป เสร็จแล้วก็เช็ดมือให้แห้งตามด้วยทาโลชั่นบำรุง ทำแบบนี้เรื่อยๆ จะเห็นผลที่ดีภายในไม่กี่วัน
– ใช้โลชั่นหรือมอยส์เจอไรเซอร์ ให้ทาโลชั่นหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความชุ่มชื้นมากๆ ใช้เป็นประจำและควรจะ
พกโลชั่นทามือติดตัวไว้ด้วย เพราะเมื่อรู้สึกว่า มือแห้งหรือลอกจะได้หยิบใช้ได้ทันทีทันใด สำหรับมอยส์เจอไรเซอร์ให้ใช้ทาก่อนนอน เพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื้นของมือ
– ให้ขัดหนังกำพร้าออก ขณะที่อาบน้ำให้ใช้ใยบวบหรือฟองน้ำถูบริเวณหนังกำพร้าที่มือ ถูเบาๆ ไปเรื่อยๆ พอ
อาบน้ำเสร็จแล้วก็ให้ทาน้ำมันมะกอกหรือโลชั่น ทำเป็นประจำมือที่ลอกจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
– เปลี่ยนสารเคมีที่ใช้เป็นประจำ เช่น ผงซักฟอกและน้ำยาล้างจาน ในกรณีที่รู้สาเหตุของมือแห้ง ลอก แตกเป็นขุย
ว่า เกิดจากสารเคมี ให้เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ พร้อมกันนั้นก็ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงด้วยการสวมถุงมือยางทุกครั้ง เมื่อจะต้องสัมผัสผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำแบบนี้จนเป็นนิสัยมือก็จะไม่แห้ง ลอก แตกเป็นขุยแน่นอน
– พบแพทย์ หากทำตามทุกคำแนะนำแล้ว แต่มือก็ยังคงแห้ง ลอก แตกเป็นขุย ควรจะไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์
ตรวจเช็กผิวหนังบริเวณที่ลอก บางทีอาจจะเกิดจากภูมิแพ้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องทานยาแก้แพ้ควบคู่ไปกับการดูแลให้มือชุ่มชื้นและหลีกเลี่ยงการสัมผัสต่างๆ
ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดที่ช่วยแก้ปัญหามือแห้ง แตก ลอกเป็นขุยอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมต่างกันแถมราคาก็ต่างกันด้วย ผู้บริโภคควรจะลองตรวจสอบดูว่า ผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีส่วนผสมอะไรบ้าง เช่น ตัวไหนมีมอยส์เจอไรเซอร์ปริมาณเท่าไร ตัวไหนมีส่วนผสมน้ำหอมมากแค่ไหน ตัวไหนมีสารระคายเคืองบ้าง เช่น แอลกอฮอล ตัวไหนมีสารบำรุงอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อมือและเล็บบ้าง ถ้ารู้เรื่องเหล่านี้จะช่วยทำให้เกิดความมั่นใจในการเลือกหาเลือกใช้ อีกทั้งยังปลอดภัยด้วย แค่เพียงสละเวลาไม่เท่าไร แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดี มันก็น่าทำอยู่ไม่ใช่เหรอ